การขับขี่อย่างปลอดภัย

แนวทางในการป้องกัน เพื่อให้เกิด การขับขี่อย่างปลอดภัย

การขับรถสามารถทำให้คุณมีอิสระ แต่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เสี่ยงที่สุด ที่คุณทำในทุกวัน มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์มากกว่า 36,000 คนในสหรัฐอเมริกาในปี 2561 และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกนับล้านในแต่ละปี หลายสิ่งหลายอย่างอาจทำให้การขับขี่มีความเสี่ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็ว การไม่เอาใจใส่ต่อถนนเมื่อขับรถ และการขับรถในขณะที่เหนื่อยล้า ล้วนแล้วแต่เพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ และหากมีการดื่มหรือการใช้ยาอาจเป็นอันตรายเพิ่มมากขึ้นไปอีก การขับขี่อย่างปลอดภัย ในการใช้รถใช้ถนน เป็นสิ่งที่พึงปฏิบัติและระลึกถึงอยู่เสมอ แต่ก็อาจจะมีหลายปัจจัยที่อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ เช่น

• เสียสมาธิขณะขับรถ

คุณคงเคยเห็นโฆษณาที่ทำให้คุณละสายตาจากท้องถนนไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือป้ายไฟป้ายโฆษณาที่ติดตามท้องถนนทั่วไปซึ่งทำให้การขับรถของคุณเสียสมาธิหรือ เมื่อมีคนโทรหาหรือส่งข้อความถึงเราเรามักจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองทันทีทำให้ละสายตาจากท้องถนนไปอยู่ที่โทรศัพท์และนี่จึงกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เสียสมาธิได้ง่ายเนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ติดโทรศัพท์และมักใช้โทรศัพท์เป็นเพื่อนในระหว่างเดินทางจึงทำให้มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นและสิ่งที่ทำให้ไขว้เขวไม่ได้อยู่แค่ในโทรศัพท์เท่านั้นยังเป็นสิ่งที่ดึงความสนใจไปจากการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารหรือการปรับระบบนำทางของคุณล้วนเบี่ยงเบนความสนใจจากการขับขี่ได้ทั้งสิ้นและนอกจากนี้การค้นหาสิ่งของก็เป็นปัญหาใหญ่เช่นกันคุณอาจละสายตาจากถนนเพื่อเอื้อมมือไปหยิบแว่นกันแดดหรืออะไรบางอย่างในที่นั่งข้างๆซึ่งการเสียสมาธิในขณะขับรถสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน 

• ผู้ขับขี่ที่เป็นวัยรุ่น

การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้ขับขี่ที่เป็นวัยรุ่นมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่การชนมักเกิดขึ้นในกลุ่มอายุ 16-19 ปีสูงกว่ากลุ่มอายุอื่นๆนั่นเป็นเพราะทักษะการขับรถในวัยรุ่นยังมีน้อยซึ่งทักษะบางอย่างจะดีขึ้นตามประสบการณ์วัยรุ่นมักจะวอกแวกโดยเฉพาะกับเพื่อนในรถหรือมักจะขับขี่ด้วยความคึกคะนองมองเป็นเรื่องสนุกพ่อแม่จำเป็นต้องเป็นแบบอย่างที่ดีและพูดคุยเรื่องการขับขี่อย่างปลอดภัยอยู่เสมอเพราะวัยรุ่นยังคงดูและเรียนรู้จากพฤติกรรมของพ่อแม่

• ผู้ขับขี่ที่มีอายุมาก

ผู้ขับขี่อายุน้อยไม่ใช่กลุ่มเดียวที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดปัญหาเมื่อคุณอายุมากขึ้นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจอาจทำให้ การขับขี่มีอันตราย มากขึ้นตามไปด้วยเพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นการมองเห็นก็จะแย่ลงตามไปด้วยโดยเฉพาะผู้สูงอายุอาจมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ใหญ่ทั่วไปเพราะอาจเป็นโรคเกี่ยวกับการมองเห็นเช่นโรคต้อหินจะแย่ลงตามอายุผู้สูงอายุยังมีแนวโน้มที่จะมีภาวะทางตาบางอย่างที่ส่งผลต่อการมองเห็นเช่นต้อกระจกและจอประสาทตาเสื่อมตามอายุ  ปัญหาในการแยกความแตกต่างของวัตถุออกจากพื้นหลัง ซึ่งเรียกว่าความไวของคอนทราสต์นั้นพบได้บ่อยเช่นกัน ซึ่งปัญหาการมองเห็นอาจส่งผลต่อความสามารถในการมองเห็นด้านข้างหรือการมองเห็นรอบข้าง ซึ่งจะทำให้มองเห็นรถในเลนข้างๆ ได้ยากขึ้นจึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องขับรถ นอกจากนี้เมื่อเราอายุมากขึ้นการเปลี่ยนแปลงของความสามารถทางกายภาพ เช่น ความแข็งแรงและการตอบสนอง อาจทำให้การขับขี่มีอันตรายมากขึ้น แต่การมีอายุมากขึ้นไม่ได้หมายความว่าคุณต้องหยุดขับรถเพียงแต่อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ 

สรุป

อุบัติเหตุจากการขับขี่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาที่มีการใช้รถใช้ถนนไม่ว่าคุณจะเป็นคนขับมือใหม่หรือขับรถมานานอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงการขับขี่อย่างปลอดภัยเมื่อมีการใช้รถใช้ถนนต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและหากรู้ว่าเรามีความเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุบัติเหตุหรือสภาพร่างกายไม่พร้อมก็ควรเลี่ยงการขับรถเองเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ